ระบบ ERP
· ห่วงโซ่ของกิจกรรมขององค์กร
องค์กรธุรกิจประกอบกิจกรรมธุรกิจในการส่งมอบสินค้าหรือบริการให้แก่ลูกค้า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรม “สร้างมูลค่า” ของทรัพยากรธุรกิจให้เกิดเป็นสินค้าหรือบริการและส่งมอบ “มูลค่า” นั้นให้แก่ลูกค้า โดยกระบวนการสร้างมูลค่าจะแบ่งออกเป็นส่วนๆ โดยแต่ละส่วนจะรับผิดชอบงานในส่วนของตน และมูลค่าสุดท้ายจะเกิดจากการประสานงานระหว่างแต่ละส่วนหรือแผนกย่อยๆ ดังนั้นกิจกรรมที่สร้างมูลค่านั้น ประกอบด้วยการเชื่อมโยงของกิจกรรมของแผนกต่างๆ ในองค์กร การเชื่อมโยงของบริษัทเพื่อให้เกิดมูลค่านี้ เรียกว่า “ห่วงโซ่ของมูลค่า (value chain)”
· ปัญหาที่เกิดขึ้นในการบริหารธุรกิจ
ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ การเชื่อมโยงของกิจกรรมการเพิ่มมูลค่าของแต่ละแผนก มักจะมีปัญหาเรื่องการสูญเปล่าและการขาดประสิทธิภาพ อีกทั้งการใช้เวลาระหว่างกิจกรรมที่ยาวเกินไป ทำให้ผลผลิตต่ำลง เกิดความยากลำบากในการรับรู้สถานภาพการทำงานของแผนกต่างๆ ได้ ทำให้การตัดสินใจในการลงทุนและบริหารทรัพยากรต่างๆ ทำได้ยากขึ้น การบริหารเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กรไม่สามารถทำได้
ระบบ SAP
SAP PM(Preventive Maintenance)
SAP PM เป็นโปรแกรมการบริหารงาน และควบคุมระบบการซ่อมบํารุงด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เป็นการบริหารงาน และควบคุมระบบการซ่อมบํารุง ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นระบบการทำงานภายใต้ระบบงาน SAP ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันในบริษัทชั้นนำทั่วไป โดยการควบคุมระบบงานซ่อมด้วย ใบสั่งงาน (MO – Maintenance Order) และการวางแผนงานบำรุงรักษา (Preventive Maintenance) โดยระบบมีความสอดคล้องกับระบบ TPM (Total Preventive Maintenance) ซึ่งระบบ TPM นั้น เป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในระบบอุตสาหกรรม
SAP PM เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการบริหาร และควบคุมระบบการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร
ซึ่งประกอบด้วย 5 Module ใหญ่ๆ ดังนี้
1. ระบบการบริหารการซ่อม (Repair/Corrective Maintenance)
o แจ้งซ่อม (MR. Maintenance Request)
o ใบสั่งซ่อม (MO. Maintenance Order)
o ปิดงานซ่อม (MC. Maintenance Complete)
o ตรวจรับงานซ่อม (MA. Maintenance Approved)
o วิเคราะห์/รายงาน/กราฟ สรุปการทำ Maintenance
Ø เวลาเครื่องจักรหยุด (Downtime)
Ø แนวโน้มการหยุดของเครื่องจักร (Trend of Downtime)
Ø ประสิทธิภาพของเครื่องจักร (Performance of Machine)
Ø ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง (B.M. Budget)
Ø สาเหตุการเสียของเครื่องจักร (Root cause of Machine)
2. ระบบการบริหารการบำรุงรักษา (Preventive Maintenance System : P.M.)
o สร้างแผนงานบำรุงรักษา (P.M. Create)
Ø กำหนดแผน (วัน/สัปดาห์/เดือน/ปี)
Ø กำหนดวันทำงาน
Ø กำหนดคน
Ø กำหนดเวลาการทำงาน
Ø กำหนดการเปลี่ยนอะไหล่
o ออกใบสั่งงานบำรุงรักษา (P.M. Work Order)
o ปิดงานบำรุงรักษา (P.M. Complete)
o ตรวจรับงานบำรุงรักษา (P.M. Approved)
o วิเคราะห์/รายงาน/กราฟ สรุปการทำ P.M.
Ø ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา (P.M. Budget)
Ø ติดตามแผนบำรุงรักษา (P.M. PM Plus+TM up)
Ø วิเคราะห์แผนบำรุงรักษา (P.M. Analyses)
Ø วิเคราะห์แรงงาน (Labor Analyses)
3. ระบบการบริหารพัสดุ, การสั่งซื้อและการบริหารต้นทุนแรงงาน (Material Reservation, External Procurement, Labor Cost)
o บริหารจัดการ stock พัสดุแบบรวมศูนย์ (Spare Part Pool)
o บริหารจัดการสั่งซื้อพัสดุจากภายนอก
o บริหารจัดการต้นทุนแรงงานในการซ่อมบำรุง
4. ระบบการบริหารประวัติการซ่อมบำรุง (Maintenance History)
o เก็บบันทึกประวัติการซ่อมบำรุงทั้งในส่วนของ Report ต่างๆ, ค่า downtime, ประวัติการซ่อม,ประวัติเครื่องจักร, BOM ของเครื่องจักร
5. ระบบการบริหารต้นทุนและการวิเคราะห์การซ่อมบำรุง
o สามารถบริหารต้นทุนของการซ่อมบำรุง
o สามารถวิเคราะห์ต้นทุนหรือการซ่อมบำรุงได้หลายรูปแบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น